WD® นำเสนอฮาร์ดไดรฟ์นวัตกรรมใหม่ จับคู่ SSD120GB เข้ากับฮาร์ดไดรฟ์ WD Black2 ขนาด 2.5 นิ้วความจุ 1TB

มอบประสิทธิภาพสูงสุด ควบคุมข้อมูลดีเยี่ยม พร้อมการอัพเกรดสำหรับโน้ตบุ๊ค, AIO และระบบช่องเสียบไดรฟ์เดียว

เอซุส ประกาศเปิดตัวเราเตอร์ไร้สายดูอัลแบนด์ RT-AC52U

เราเตอร์สุดยอดแห่งความคุ้มค่าตระกูล AC750 ที่ให้ความเร็ว Wi-Fi สูงถึง 733 เมกะบิตต่อวินาที และดีไซน์แบบพลังงานสูงที่เพิ่มขอบเขตสัญญาณไร้สายมากถึง 150%

[-รีวิว-] Apacer Q Zoo Mobile Flashdrive

Mobile Flash Drive ดีไซน์สุดแบ๊ว

[-รีวิว-] Rapoo H3070 Wireless Stereo Headset

หูฟังไร้สาย ใช้สบายทุก Device.

[-รีวิว-] Razer Hammerhead Pro

หูฟัง In-Ear สำหรับเหล่าเกมเมอร์

วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557

เอซุส ประกาศเปิดตัวเราเตอร์ไร้สายดูอัลแบนด์ RT-AC52U



ไทเป ไต้หวัน – วันนี้ ASUS ประกาศเปิดตัว RT-AC52U เราเตอร์ดูอัลแบนด์รุ่นประหยัดจากตระกูล AC750 ที่ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi แบบ 802.11ac ซึ่งให้ความเร็วการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงสุดยอดได้ถึง 733 เมกะบิตต่อวินาที

RT-AC52U ให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้พร้อมกันทั้งบนย่านความถี่ 2.4 และ 5 กิกะเฮิร์ตซ์ รวมทั้งมีเสาอากาศออกแบบพิเศษที่ขยายพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณได้มากถึง 150% เมื่อเปรียบเทียบกับเราเตอร์ตัวอื่นในตลาด เราเตอร์ตัวใหม่นี้มาพร้อมกับพอร์ต USB อเนกประสงค์ที่ให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อและแชร์เครื่องพิมพ์ ไดรฟ์ฮาร์ดดิสก์ หรือการเชื่อมต่อข้อมูลจาก 3G/4G (HSPA+) รวมถึงยังใช้ชาร์ตอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ให้ความสะดวกจากการใช้งานได้หลากหลายอย่างแท้จริง

RT-AC52U ยังรองรับ ASUS AiCloud ทูลสุดพิเศษที่ให้การซิงค์ แบ่งปัน และสตรีมมิ่งไฟล์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

การเชื่อมต่อดูอัลแบนด์ได้พร้อมกัน ให้สัญญาณพลังสูง และดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว
เสาอากาศ 3 เสาของ RT-AC52U ที่ติดตั้งบนบนเราเตอร์ให้ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย และทำงานได้พร้อมกันบนทั้งย่านความถี่ 2.4 และ 5 กิกะเฮิร์ตซ์ เพิ่มความสามารถของสัญญาณไร้สายและประสิทธิภาพการทำงานได้ถึงสองเท่า

RT-AC52U สามารถรับส่งข้อมูลได้มากถึง 300 เมกะบิตต่อวินาทีบนย่านความถี่ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ และสูงถึง 433 เมกะบิตต่อวินาทีบนย่าน 5 กิกะเฮิร์ตซ์ไปพร้อมหัน แบนด์วิธรวมถึง 733 เมกะบิตต่อวินาทีนี้ถือเป็นความได้เปรียบอย่างยิ่งเนื่องจากผู้ใช้สามารถดึงเอาย่าน 2.4GHz มาใช้สำหรับงานประจำวันอย่างท่องเว็บและอีเมล แล้วมาสนุกกับเกมออนไลน์และสตรีมมิ่งความละเอียดสูงที่รวดเร็ว ราบรื่น ไร้ความกระตุกบนย่านความถี่ 5GHz ที่แออัดน้อยกว่า โดยไม่มีความแลคแม้แต่น้อย

วิศวกรจาก ASUS ยังได้ใส่ตัวขยายสัญญาณอันทรงพลังลงใน RT-AC52U เพื่อขยายระยะการส่งสัญญาณทั้งภายในและภายนอกอาคาร เมื่อเทียบกับเราเตอร์ 802.11ac ตัวอื่นจากคู่แข่งแล้ว RT-AC52U สามารถเพิ่มขอบเขตของสัญญาณได้มากกว่าถึง 150% แพร่กระจายไปทุกซอกทุกมุมของบ้าน รวมไปถึงสวนหลังบ้านของคุณด้วย

พอร์ต USB อเนกประสงค์สำหรับทำซิงค์ แชร์ไฟล์ และทำเป็นไฟล์เซิร์ฟเวอร์
RT-AC52U เป็นมากกว่าเราเตอร์ธรรมดา ด้วยพอร์ต USB บิวท์อินที่แค่เสียบไดรฟ์ USB ก็ทำให้ RT-AC52U กลายเป็นไฟล์เซิร์ฟเวอร์ได้ อีกทั้งยังพาขึ้นไปสู่โลกของคลาวด์ได้ด้วยเทคโนโลยี AiCloud จาก ASUS อีกด้วย ผู้ใช้ยังสามารถต่อเครื่องพิมพ์แบบ USB เข้ากับ RT-AC52U เพื่อทำเป็นพริ๊นท์เตอร์เซิร์ฟเวอร์ไว้แบ่งปันการใช้งานแก่ผู้ใช้หลายคนได้

พอร์ต USB นี้ยังรองรับการเชื่อมต่อออกภายนอกด้วยบรอดแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G/4G ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อออกทางบรอดแบรนด์ (ขา WAN) ได้ถึง 2 ขาจากเราเตอร์ตัวเดียว ทำให้สามารถแบ่งโหลดทราฟิกพร้อมทั้งให้การเชื่อมต่อสำรอง (โหมด Failover) เพื่อประกันการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียร พอร์ตนี้ยังใช้ให้พลังงานแก่อุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ด้วย ทำให้ RT-AC52U กลายเป็นแท่นชาร์ตที่มีประโยชน์อีกตัวในบ้านคุณ

ซิงค์ แชร์ และสตรีมมิ่งได้ดังใจด้วย ASUS AiCloud
RT-AC52U ยังรองรับ ASUS AiCloud แอพพลิเคชั่นสุดพิเศษที่เปลี่ยนโฉมเราเตอร์ให้กลายเป็นคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวอันทรงพลัง ไม่ว่าไฟล์จะถูกเก็บไว้บนเครือข่าย ในอุปกรณ์สตอเรจแบบ USB หรือบน ASUS WebStorage ก็สามารถนำมาซิงค์ได้อย่างง่ายดายด้วยฟีเจอร์ ASUS Smart Sync แถมยังแบ่งปันกับเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และสมาชิกในครอบครัวได้ง่ายเพียงส่งลิงค์ผ่านอีเมล ข้อความสั้น หรือแอพโซเชียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตต่างๆ ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลของตัวเองผ่านหน้าเว็บของ AiCloud หรือแอพ AiCloud ฟรีทั้งบนแอนดรอยด์และ iOS ทำให้พวกเขาสามารถซิงค์ แชร์ หรือสตรีมคอนเท็นต์ได้จากทุกที่

AiCloud ยังมีโหมดการซิงค์ข้อมูลระหว่างเราเตอร์แบบใหม่ที่ซิงค์ข้อมูลจากอุปกรณ์สตอเรจ USB ที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ ASUS ตัวอื่นที่ทำงานร่วมกันได้โดยอัตโนมัติ สำหรับแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่กับครอบครัวและเพื่อนๆ ได้อย่างง่ายดาย

ติดตั้งง่ายและได้ความยืดหยุ่นสูงสุดด้วย ASUSWRT
การติดตั้ง RT-AC52U ง่ายดายอย่างสุดๆ ด้วย Dashboard ที่ใช้งานได้ง่ายของ ASUSWRT ที่ให้การตั้งค่าฟีเจอร์เครือข่ายชั้นสูงได้ง่ายอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น การจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลแบบ Quality-of-Service (QoS) ผู้ใช้จึงสามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้แบนด์วิธบนแต่ละการเชื่อมต่อแบบ Eternet (LAN) ทั้ง 4 พอร์ต ฟีเจอร์อื่นที่เยี่ยมยอดของ ASUSWRT ได้แก่การควบคุมโดยผู้ปกครอง การจัดการ WAN แบบดูอัล การแมพไดรฟ์บนเครือข่าย และการแชร์เครื่องพิมพ์

RT-AC52U ยังมาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ตั้งค่าได้ง่ายดายผ่าน ASUSWRT ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งการเข้าถึงเครือข่ายในบ้านจากระยะไกลที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวได้ด้วย



คุณสมบัติ1
ASUS RT-AC52U
Wi-Fi                      ดูอัลแบนด์ 802.11b/g/n/ac (2.4GHz/5GHz, AC750)
พอร์ต                     10/100Mbit/s Ethernet WAN จำนวน 1 พอร์ต
10/100Mbit/s Ethernet LAN จำนวน 4 พอร์ต
USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต
อัตราส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi         802.11ac ได้มากถึง 433Mbit/s (5GHz)
802.11n ได้มากถึง 300Mbit/s (2.4GHz)
802.11g ได้มากถึง 54Mbit/s
802.11b ได้มากถึง 11Mbit/s
Antennas                 เสาอากาศบิวท์อินประสิทธิภาพสูง 3 เสา
ตัวประมวลผล           MediaTek MT7620A + MT7610E
ขนาด                     187 x 145 x 77mm
น้ำหนัก                    260 กรัม (0.57 ปอนด์)

1          คุณสมบัติและสต็อคผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ประสิทธิภาพที่ได้จริงอาจแตกต่างขึ้นกับแอพพลิเคชั่น การใช้งาน สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ

###

เกี่ยวกับ ASUS

ASUS เป็นผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊กระดับคอนซูเมอร์อันดับท็อป 3 จากทั่วโลก และผู้ผลิตเมนบอร์ดที่ขายดีที่สุด และได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ในฐานะองค์กรชั้นนำในโลกดิจิตอลยุคใหม่ ASUS ได้ออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการทางดิจิตอลของผู้ใช้ในบ้านและสำนักงานในปัจจุบันอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยสายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่เมนบอร์ด การ์ดจอ ไดรฟ์อ๊อพติคัล จอมอนิเตอร์ เดสก์ท็อปและพีซีแบบ All-in-One โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์มัลติมีเดีย โซลูชั่นไร้สาย อุปกรณ์เครือข่าย แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นให้ได้คุณภาพ ทำให้ ASUS ชนะกว่า 4,256 รางวัลในปี 2556 และได้รับการยอมรับในวงกว้างสำหรับการปฏิวัติวงการพีซีด้วยผลิตภัณฑ์ Eee PC™ ปัจจุบัน ASUS มีพนักงานมากกว่า 12,500 คนทั่วโลก พร้อมกับทีมวิจัยและพัฒนาระดับโลกที่มาจากวิศวกรกว่า 3,800 คน รายรับของบริษัทในปี 2555 ประมาณกว่า 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

BIOSTAR เผยเมนบอร์ด AMD FM2+ Dual Graphics ในโมเดล A58MD


BIOSTAR ผู้ผลิตเมนบอร์ด, กราฟิกการ์ด, อุตสาหกรรมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ได้เปิดตัวเมนบอร์ด AMD FM2+ รุ่นล่าสุดในโมเดล A58MD ในขนาด micro-ATX อย่าเป็นทางการ โมเดลนี้เป็นเมนบอร์ดที่มีความคุ้มค่าและรองรับการทำงานสำหรับซ็อกเก็ต AMD FM2/FM2+ APUs และสนับสนุน SuperSpeed USB 3.0 และเมมโมรี่ Dual-Channel DDR3

A58MD สนับสนุน AMD Multi Core (x4,x2) และรองรับโปรเซสเซอร์ AMD 100W มันได้ใช้ชิปเซ็ท AMD A55 พร้อมสนับสนุนเมมโมรี่ 2 DIMM DDR3-2600(OC) / 2400(OC) / 2133 / 1866 / 1600 / 1333 / 1066 / 800 และคุณสมบัติที่สนับสนุนการแสดงผลตามความสามารถของโมเดล APU ที่คุณเลือกใช้งาน

คุณสมบัติของเมนบอร์ด A58MD นี้ ได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก BIOSTAR เช่น BIOS Flasher และ BIOS Online Update สำหรับการอัพเดทและคืนค่าการใช้งานของ BIOS ได้อย่างง่ายดาย รวมถึง BIO-Remote 2 สำหรับการควบคุมระบบระยะไกลผ่านดีไวซ์ Android และ Apple

BIOSTAR ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและทนทานต่อการใช้งานในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเกมมิ่ง, ความบันเทิงหรืออุตสาหกรรมของคุณ ด้วยซ็อกเก็ต AMD FM2+ ใหม่นี้และการเสริมคุณสมบัติทั้ง 6 ประการ: 6+ Experience (Audio+, Video+, Speed+, Protection+, Durability+, DIY+)

          Audio+ Features – คุณสมบัติทางด้านเสียง สัมผัสใหม่เหมือนคุณได้ติดตั้งคอมโพเน้นท์ระดับ High-End โดย Hi-Fi A88W 3D ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น 3D Audio, True Blue-Ray Audio, 3D Hi-Fi Amp และ Smart Ear 3D Ear 3D”

          Video+ Features – ด้วย AMD’s Radeon Graphic พร้อมสนับสนุนการทำงาน Microsoft’s DirectX 11.1 เมนบอร์ด Hi-Fi A88W 3D ได้มอบคุณภาพทางด้านภาพกราฟิก 3D อย่างสมบูรณ์สำหรับ Full HDMI 3D 1080p และพอร์ต Dual-Link DVIในความละเอียด 2560x1600p นอกจากนี้ เทคโนโลยี Eyefinity ยังรองรับการเชื่อมต่อมอนิเตอร์จำนวนมากอีกด้วย

          Speed+ Features - Hi-Fi A88W 3D สนับสนุกเทคโนโลยี PCI-E 3.0 ที่มีความเร็วแบนด์วิดท์เป็น 2 เท่าของ PCI-E 2.0และสูงสุดถึง 1GB/s สำหรับค่าแบนด์วิดท์ต่อสล็อท มาพร้อมกับ Smart SpeedLAN ที่เป็นแอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยในการจัดการและตรวจสอบเครือข่าย โดยคุณสามารถเลือกการจัดการแบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาด เพื่อการท่องอินเตอร์เน็ทบนโลกออนไลน์ของคุณได้ดีที่สุดตลอดเวลา นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติCharger Booster ที่เป็นโซลูชั่นสำหรับการชาร์จพลังงานให้กับอุปกรณ์Apple ให้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถชาร์จไฟสำหรับ iPad หรือ iPhone ของคุณได้เร็วกว่าเดิมถึง 42%

          Protection+ Features – BIOSTAR ต้องการที่จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ไปอีกระดับสำหรับอุปกรณ์คอมโพเน้นต่างๆ เช่น HiFi A88W 3D ได้มีการปรับ USB Over ให้มีการป้องกันในปัจจุบันแล้ว มันเป็นอีกคุณสมบัติที่ถูกติดตั้งไว้บนบอร์ดสำหรับป้องกันอุปกรณ์ USB ต่างๆไม่ให้ได้รับความเสียหายหรือมีผลกระทบน้อยที่สุด ESD (Electrostatic Discharge) จะช่วยลดและป้องกันปัญหากระแสไฟเกินสำหรับ USB Port นอกจากจะเพิ่มคุณสมบัติ OVER-Current Protection ลงบนเมนบอร์ดแล้ว มันยังประกอบด้วย OVER-Voltage Protection และ OVER-Heat Protection ที่ช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น ด้วยการตรวจสอบค่ากระแสไฟที่เกินความจำเป็นและการป้องกันความร้อนที่กระจายอยู่บนบอร์ดได้ตลอดเวลา

          Durability+ Features – BIOSTAR ได้ออกแบบคุณสมบัติในหลายๆส่วน และทำให้เมนบอร์ดมีความทนทานมากขึ้น Low RdsOn P-Pak MOS ได้ถูกออกแบบให้มีความต้านทานต่ำและสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีอุณหภูมิในการปฏิบัติงานที่ต่ำ ขนาดเล็กและเป็นฉนวนนำความร้อนที่ดี Hi-Fi A88W 3D ยังได้เลือกใช้ PCB ที่สามารถป้องกันความชื้นในระดับมาตราฐานได้ โดยผู้ใช้บางคนอาจต้องใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใกล้พื้นที่ที่มีความชื้นสูง (เช่น ชายฝั่งทะเล) PCB นี้จะช่วยดูดซับความชื้นได้ง่ายขึ้น ด้วยคุณสมบัตินี้ทำให้ PCB มีความทนทานและอายุการใช้งานสูง เพื่อความมั่นใจของคุณ

          DIY+ Features – DIY+ สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง BIOSTAR ได้สนับสนุนและเพิ่มนวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบ เช่น อินเตอร์เฟส UEFI (Unified Extensible Firmware Interface) BIOS ที่ทันสมัยและมีการแสดงผลที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับไอคอนสำหรับการเรียกใช้และปรับแต่งได้โดยตรง BIO-Remote 2 ได้มอบความสามารถที่จะทำให้บ้านของคุณกลายเป็น Home Theater ด้วยการใช้งานและควบคุมผ่านอุปกรณ์ Android หรือ Apple ช่วยให้คุณสามารถสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ระยะไกลได้ นอกจากนี้ BIO-Remote 2 ยังรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานทั้ง Mouse pad และควบคุมการนำเสนอ Power Point อีกด้วย

สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้: http://www.biostar.com.tw/app/en/mb/introduction.php?S_ID=663
เกี่ยวกับบริษัท BIOSTAR MICROTECH INT’L BIOSTAR GROUP เริ่มก่อตั้งในปี 1986 และกลายเป็นผู้ผลิตเมนบอร์ดรายใหญ่ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ด้วยทรัพยากรที่แข็งแกร่งทั้งโครงสร้างองค์กรและผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง BIOSTAR มีความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเสริมเทคโนโลยีที่ทันสมัยลงไปในทุกผลิตภัณฑ์

ในด้านการผลิตเมนบอร์ดคุณภาพ BIOSTAR ยังได้สร้างระบบ mini-PC ในรุ่น iDEQ series ที่เป็นเทรนใหม่สำหรับอนาคตและผลิตภัณฑ์ IA ด้วยสายการผลิตที่กว้าง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการ BIOSTAR มีความภูมิและยินดีนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในความคุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรม

ViewSonic จอภาพระดับ Quad HD สำหรับมืออาชีพที่มาพร้อมคุณภาพการแสดงสี และภาพระดับสูงสุด



          ViewSonic Corp. ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อุปกรณ์แสดงผลภาพ ได้ขยายไลน์ของผลิตภัณฑ์จอภาพสำหรับมืออาชีพ โดยได้เปิดตัวจอภาพขนาด 27 นิ้ว รุ่นใหม่ ในชื่อรุ่นว่า VP2772 Adobe Color QHD
Simon Wang ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ ViewSonic ได้กล่าวว่า สมรรถนะในการแสดงผลสีของจอภาพสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในกลุ่มจอภาพระดับนี้ โดย VP2772 นั้นจะให้คุณภาพของภาพพร้อมกับความแม่นยำในการแสดงสีแบบ Adobe Color และหน้าจอพาแนลที่เป็นแบบ 10 bit ที่สามารถแสดงผลได้ถึง 1.07 พันล้านสี และมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพต้องการอย่างพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย และการเชื่อมต่อหน้าจอหลายหน้าจอแบบเรียงลำดับ หรือแบบ daisy chain อีกด้วย




          จอภาพ 27 นิ้ว ตัวนี้ เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับงานตกแต่ง งานภาพถ่าย งานออกแบบกราฟฟิก งานสร้างสรรค์สื่อต่างๆ ตลอดจนงานสื่อประสาสัมพันธ์อื่นๆ และงานที่ต้องการความเที่ยงตรงแม่นยำในการแสดงผลสี ที่ความละเอียดระดับ QHD (2560x1440) ตลอดจนให้ความเที่ยงตรงในการแสดงผลสีถึงระดับ 99% ใน Adobe RGB Color space โดยที่ VP2772 นั้นจะมาพร้อมกับเอ็นจิ้นแสดงผลสี 12 บิต และ LUT 14 บิต ที่สามารถประมวลสีได้ถึง 68.7 พันล้านสี จึงช่วยให้สร้างการแสดงผลภาพที่สมจริงที่สุด

          ด้วยเทคโนโลยีจอภาพแบบ SuperClear™ IPS ที่ทำการคาลิเบรทมาในระดับ Delta E3 ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ทั้งในแง่ของมุมมองการรับชมภาพที่กว้าง และเที่ยงตรงแม่นยำในการแสดงผลสี พร้อมด้วยพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง DisplayPort แบบคู่ และยังมี DisplayPort out อีก 1 ช่อง ทำให้ VP2772 นั้นสามารถแสดงผลภาพจากแหล่งต้นกำเนิดสัญญาณภาพหนึ่งแหล่งไปยังหน้าจออื่นที่ถูกต่อในลำดับในรูปแบบ daisy chain ด้วยกันได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพอร์ต HDMI, DVI สำหรับเสียบสัญญาณภาพเข้า และยังมีพอร์ต USB 3.0 ถึง 4 พอร์ต สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สตอเรจ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ได้ง่ายดาย ViewSonic VP series นั้นมาพร้อมกับดีไซน์ที่รองรับกับสรีระการใช้งานของผู้ใช้ รวมไปถึงความสามารถในการหมุนจับจอตั้งขึ้นทั้งในแบบ tilt, pivot, swivel  และปรับความสูงได้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีที่สุด




เกี่ยวกับ ViewSonic®

                ViewSonic® มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Walnut, California, USA เป็นผู้นำ และผู้ผลิตอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเลกทรอนิกส์ โซลูชั่นด้านการสื่อสาร ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 โดยมีพันธกิจในการที่จะเป็นแบรนด์ระดับโลกในด้านโซลูชั่นการแสดงภาพ และเราได้ยืนหยัดที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มการแสดงผภาพ ได้แก่ LED Monitors, Tablet, Projector, Digital Signage displays, smartphones และโซลูชั่น cloud computing โดย ViewSonic จะยังคงสร้างเทคโนโลยีในกลุ่มของการรับชมภาพ และการมองเห็น เพื่อเชื่อมโลกดิจิตอลที่ไร้พรมแดนต่อไปในอนาคต รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาเข้าชม ap.viewsonic.com



วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ViewSonic มอบสุดยอดประสบการณ์การเล่นเกม ด้วยจอแสดงผลเพื่อความบันเทิงใหม่ล่าสุด VX52 Series ใหม่ ด้วย response time ที่รวดเร็วถึง 2 ms พร้อมการเชื่อมต่อ HDMI และ VESA mount เพื่อความคล่องตัว


          ViewSonic Corp. ผู้นำด้านโซลูชั่นการแสดงผลของโลก ได้ขยับปรับเปลี่ยนไลน์ผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเพื่อความบันเทิง โดยในวันนี้ได้เปิดตัว VX52 series ที่ประกอบไปด้วยรุ่น 24” (พื้นที่รับชม 23.6”) ในรุ่น VX2452mh และรุ่น 22” (พื้นที่รับชม 21.5”) VX2552mh

          คุณ Simon Wang ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจาก ViewSonic ได้กล่าวว่า “VX52 ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของฟีเจอร์ในรุ่น VX50 ที่เป็นรุ่นขายดีที่สุดของเรา นอกจากนี้ยังเพิ่มเอาความสามารถในการทำ response time ต่ำเพียง 2ms นอกจากนี้ VX52 ยังมาพร้อมกับ ID ใหม่และกรอบแบบเงางาม ตลอดจนขั้วต่อ HDMI และเมาท์สำหรับแขวนผนัง VESA ทำผู้ใช่สามารถสนุกไปกับภาพจากเกมที่ลื่นไหล ไร้ที่ติ ได้อย่างง่ายดาย

             VX52 Series มาพร้อมกับความละเอียดระดับ HD และเทคโฯโลยี ClearMotiv™ ที่ให้ response time ที่เร็วถึง 2ms เพื่อภาพที่คมชัดทุกการเคลื่อนไหว จับคู่กับคุณสมบัติในเรื่อง Contrast Ratio ถึง 50M:1 MEGA Dynamic พร้อมกับลำโพงแบบบิวท์อินขนาด 2 วัตต์ ทำให้ VX52 series นั้นสามารถแสดงสีสันได้อย่างเฉียบคมและสวยงาม และระบบเสียงที่เยี่ยมยอดทำให้เหมาะสำหรับการใช้เล่นเกม ตลอดจนรับชมสื่อด้านความบันเทิงต่างๆ VX52 นั้นยังมาพร้อมกับ Game Mode Technology ที่จะช่วยปรับปรุงรายละเอียดของส่วนมืดในภาพ โดยปรับความสว่างให้เหาะสมกับฉากในเกมที่มีความมืด เพื่อสุดยอดประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่นเกม

          นอกเหนือจากนี้  VX52 Series ยังมาพร้อมกับพอร์ต D-Sub, DVI, HDMI input เพื่อความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์มัลติมีเดียระดับ hi-definition อย่างเช่น Xbox หรือ PS3 หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่นดีวีดี Blu-Ray ตลอดจนเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอพทั่วๆไป VESA mount ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกพื้นที่การติดตั้งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะวางตั้งโต๊ะ หรือเมาท์ติดกับขาตั้ง หรือแขวนผนัง

           VX52 Series มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี และด้วยความเป็นผู้นำในแง่ของเงื่อนไขการทำงานสมรรถนะของพิกเซล ทำให้มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด ทั้ง VX2452mh และ VX2552mh จะมีวางจำหน่าย….

เกี่ยวกับ ViewSonic

บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1987 โดย ViewSonic นั้นมีพันธกิจที่จะเป็นแบรนด์ในด้านอุปกรณ์แสดงผลสากล โดยที่เราได้โฟกัสการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์แสดงผลเป็นหลัก ตั้งแต่ LED monitor, projectors, digital signage displays และโซลูชั่นสำหรับระบบคลาวด์ ViewSonic นั้นยังคงพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผลอย่างต่อเนื่อง เพิ่อสร้างอนาคตในโลกดิจิตอลที่จะพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ViewSonic มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Walnut, California สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาเข้าชม ViewSonic.com


WD® นำเสนอฮาร์ดไดรฟ์นวัตกรรมใหม่ จับคู่ SSD120GB เข้ากับฮาร์ดไดรฟ์ WD Black2 ขนาด 2.5 นิ้วความจุ 1TB



         กรุงเทพฯ –4 ธันวาคม 2556 WD® บริษัทในเครือของเวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้นำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูล ประกาศเปิดตัวดูอัลไดร  WD Black2 นวัตกรรมการจัดเก็บข้อมูลหนึ่งเดียวที่ได้รวมโซลิดสเตทไดรฟ์ (SSD) ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุ 120 GB เข้ากับฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ความจุ 1 TB เพื่อนำเสนอโซลูชันดูอัลไดรฟ์ที่ทรงพลัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานและผู้ให้บริการที่กำลังต้องการอัพเกรดโน้ตบุ๊ค เดสก์ท็อปแบบโครงเครื่องขนาดเล็ก ระบบช่องเสียบเดียวและระบบออลอินวันด้วยประสิทธิภาพระดับ SSD และความจุระดับ HDD  โดยดูอัลไดรฟ์ WD Black2 นี้จะเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิลเส้นเดียว และสามารถใส่ลงในช่องเสียบขนาด 9.5 มม. มาตรฐานทั่วไปได้พอดี
          แมทท์ รูทัลเลดจ์ รองประธานอาวุโสประจำหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลของ WD กล่าวว่าลูกค้าของเราบอกกับเราว่าพวกเขาชอบเทคโนโลยีโซลิดสเตทไฮบริดไดรฟ์ของเรา ขณะที่บรรดาผู้ใช้งานของเราที่รอบรู้ด้านเทคโนโลยีก็ต้องการความสามารถในการควบคุมที่จัดเก็บข้อมูลของพวกเขามากยิ่งขึ้น ดูอัลไดรฟ์ WD  Black2 เปิดโอกาสให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสกับประสิทธิภาพระดับ SSD และเข้าถึงที่จัดเก็บข้อมูลความจุสูงได้ในแพคเกจที่ยากจะมีใครมาเทียบ ดูอัลไดรฟ์ WD Black2 เป็นผลลัพธ์โดยตรงของการสื่อสารระหว่างเรากับฐานลูกค้าของเราผ่านการริเริ่มโดยฝ่ายปฏิบัติการทดลองของ WD นอกจากนี้แล้ว WD ยังได้คิดค้นโปรแกรมปฏิบัติการรุ่นทดลองใช้งาน เพื่อนำเสนอเวทีการทดสอบที่พิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้ารายหลักๆ และบรรดาผู้มีอิทธิพลด้านเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลของ WD ทั้งที่มีอยู่เดิมและที่เพิ่งคิดค้นขึ้นใหม่

ทูอินวัน
          ดูอัลไดรฟ์ WD Black2 ซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานจริงจัง ผู้ใช้ที่เป็นนักสร้างสรรค์มืออาชีพ เหล่าเกมเมอร์ และผู้ผลิตเครื่องพีซีทั้งหลายมาพร้อมกับความจุไดรฟ์ ประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นโดยรวม ขณะเดียวกันก็ยังนำเสนอความยืดหยุ่นให้เลือกวิธีและที่จัดเก็บข้อมูล ด้วยการใช้ประโยชน์จากทั้งแฟลชดิสก์และจานแม่เหล็ก ดูอัลไดรฟ์ WD Black2 จะถ่ายโอนข้อมูลจาก SSD ไปยัง HDD ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความคงทนและอายุการใช้งานของ SSD นอกจากนี้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น จึงช่วยขจัดความจำเป็นและค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์

          WD Black2 ปราศจากอัลกอริธึมการแคช มาพร้อมกับความเร็วของอินเทอร์เฟสแบบ SATA ที่ระดับ 6 Gb/วินาที ในรูปแบบแพคเกจที่สวยงามประณีตด้วยฟอร์มแฟกเตอร์ 2.5 นิ้ว ความบางขนาดมาตรฐาน 9.5 มม. พร้อมหัวต่อ SATA แบบเดิมที่ใช้อยู่ จึงทำให้ดูอัลไดรฟ์ WD Black2 สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการยอดนิยมต่างๆ บนเครื่องพีซีได้ ไล่ตั้งแต่ Windows XP ไปจนถึง Windows 8.1



ราคาและการวางจำหน่าย
          ดูอัลไดรฟ์ WD Black2 พร้อมจำหน่ายแล้วโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายของ WD ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด, Eternal Asia (Thailand)  สินค้ารับประกันนาน 5 ปี ราคาแนะนำของโซลิดสเตทไดรฟ์ (SSD) ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุ 120 GB กับดูอัล ฮาร์ดไดรฟ์ WD Black2  ความจุ 1 TB model #: (WD1001X06XDTL) อยู่ที่ 11,900 บาท
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://products.wd.com/wdblack2



ข้อมูลเกี่ยวกับ WD
          เวสเทิร์น ดิจิตอล (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก  WD จัดจำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งองค์กรที่ต้องการรวบรวม จัดการ และใช้ข้อมูลดิจิตอล  WD เป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพ ซึ่งช่วยในการเก็บรักษา ป้องกันการสูญหายของข้อมูลและเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้  WD ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2513 โดยผลิตภัณฑ์ด้านจัดเก็บข้อมูลของเวสเทิร์น ดิจิตอลถูกจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ผลิตระบบและผู้ขายปลีกระดับชั้นนำที่ได้รับการคัดสรร ภายใต้แบรนด์เวสเทิร์น ดิจิตอล และดับบลิวดี สำหรับข้อมูลในส่วนนักลงทุน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ (www.westerndigital.com) เพื่ออ่านข้อมูลนักลงทุนและข้อมูลด้านการเงินต่างๆ สำหรับหน้าเฟซบุ๊คแฟนเพจในประเทศไทย คลิก http://www.facebook.com/wdcthailand หรือค้นหา “WD Thailand”
###

Western Digital, WD และ สัญลักษณ์ WD เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Western Digital Technologies, Inc ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ WD Black2 เป็นเครื่องหมายการค้าของ Western Digital Technologies, Inc ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดในที่นี้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของแต่ละราย  อัตราหน่วยความจุ 1 กิกะไบต์ (GB) =   1 พันล้านไบต์, 1 เทราไบต์ (TB) = 1 ล้านล้านไบต์ ความจุทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงได้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน 


เมนบอร์ด BIOSTAR ทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับ Bitcoin Mining




          BIOSTAR ได้มีเมนบอร์ดขนาด ATX จำนวน 2 บอร์ด สำหรับประกอบเป็นเครื่อง Bitcoin Mining และหนึ่งในนั้นได้ใช้ชิปเซ็ท Intel H81 ในโมเดล Hi-Fi H81 S2 บนซ็อกเก็ต 1150 และอีกโมเดล คือ H61B สำหรับซ็อกเก็ต 1155 โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ได้สนับสนับและครอบคลุมการทำงานของโปรเซสเซอร์ Intel 2nd, 3rd และ 4th generation Core i7/i5 และ i3 ในโลกของ Bitcoin – อุปกรณ์ “Mining rig” ก็คือระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับเพิ่ม Bitcoin ของคุณ มันสามารถเป็นธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ หรือมันสามารถเป็นเครื่องประมวลผลสำหรับการเล่นเกมและท่องอินเตอร์เน็ต และยังใช้เป็นการหาเงินใน Part-Time ได้อีกด้วย
          ด้วยการเติบโตของราคา Bitcoin ในขณะนี้ประมาณ $USD 1000 การค้าของตลาด GPU จะเป็นทฤษฏีที่สามารทำกำไรได้ดี “อะไรที่คุณต้องการในการประมวลผลจำนวนมหาศาลมากที่สุดบนระบบล่ะ?” ทางเลือกที่ดีที่สุดในที่นี้ก็คือกราฟิการ์ดหรือ GPU นั่นเอง เมนบอร์ดที่ติดตั้งพร้อมกับ GPU on-board ไม่ใช่ว่าจะดีกว่ากราฟิกการ์ดแบบแยก ผู้ใช้ควรที่จะเลือกเมนบอร์ดที่มาพร้อมกับสล็อต PCI ที่สามารถติดตั้งกราฟิกการ์ดมากถึง 2,3 หรือ 4 การ์ด อย่างเช่น Radeon series จาก AMD เพื่อสร้างเครื่องที่ใช้งานในเชิงพาณิชย์ จึงต้องหาเมนบอร์ดที่มีความคุ้มค่าและสามารถรองรับการเสริมกราฟิกการ์ดได้เป็นอย่างดี BIOSTAR Hi-Fi H81 S2 และ H61B มาพร้อมกับเทคโนโลยี PCI-E Gen 3.0 ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการใช้งาน PCI Express I/O ตามมาตรฐานและใช้งานได้อย่างสมบูรณ์กับกราฟิกการ์ด High-End จาก AMD และ NVIDIA 
            เมนบอร์ดทั้งสองโมเดลนี้ได้แสดงถึงเทคโนโลยีของ BIOSTAR อย่างเช่น ขุมพลังที่เพิ่มขึ้นของระบบเสียงจาก Hi-Fi Power และ Hi-Fi AMP นอกจากนี้ยังมาพร้อมมกับวิดีโอเอาท์พุทที่ประกอบด้วย HDMI พร้อมกับ HDCP ที่สนับสนุนการรับชมภาพ Full VIDEO และ AUDIO ผ่านเอาท์พุท DVI แบบมาตรฐาน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.biostar.com.tw/app/en/mb/introduction.php?S_ID=658#spec
และ  http://www.biostar.com.tw/app/en/mb/introduction.php?S_ID=602



เกี่ยวกับบริษัท BIOSTAR MICROTECH INT’L
BIOSTAR GROUP เริ่มก่อตั้งในปี 1986 และกลายเป็นผู้ผลิตเมนบอร์ดรายใหญ่ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ด้วยทรัพยากรที่แข็งแกร่งทั้งโครงสร้างองค์กรและผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง BIOSTAR มีความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเสริมเทคโนโลยีที่ทันสมัยลงไปในทุกผลิตภัณฑ์

ในด้านการผลิตเมนบอร์ดคุณภาพ BIOSTAR ยังได้สร้างระบบ mini-PC ในรุ่น iDEQ series ที่เป็นเทรนใหม่สำหรับอนาคตและผลิตภัณฑ์ IA ด้วยสายการผลิตที่กว้าง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการ BIOSTAR มีความภูมิและยินดีนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในความคุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรม


วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โซนี่ไทย อวดโฉมเครื่องเล่นมัลติมีเดียในรถยนต์รุ่นใหม่ ชูเทคโนโลยี MHL ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนl ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 “Motor Expo 2013”


 

        บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด อวดโฉมสุดยอดนวัตกรรมเครื่องเสียงรถยนต์ พร้อมเปิดตัวเครื่องเล่นมัลติมีเดียในรถยนต์รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี MHL(Mobile High Definition Link) ซึ่งเป็นการถ่ายทอดภาพและเสียงแบบดิจิตอลจากสมาร์ทโฟนสู่จอแสดงผลความคมชัดสูง พร้อมกับการชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยโดยใช้สายเชื่อมต่อ MHL/HDMI เพียงเส้นเดียว ผ่านช่องพอร์ท HDMI แสดงภาพและเสียงจากสมาร์ทโฟนขึ้นสู่หน้าจอเครื่องเล่นอย่างสะดวกและง่ายดาย พร้อมเชิญผู้สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับนวัตกรรมความบันเทิงในรถยนต์ล่าสุดที่ติดตั้งในรถซูเปอร์คาร์ 7 คัน 7 สไตล์ ที่บูธโซนี่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30Motor Expo 2013 ในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2556 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

มร.สเปนเซอร์ โลว์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์แอนด์ซาวด์ โซนี่ อิเลคทรอนิคส์ สิงคโปร์ และมร.จุมเป สุกิโมโต ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ร่วมกันแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมกล่าวว่า “สำหรับในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 Motor Expo 2013 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2556 นี้ ทางโซนี่ได้เตรียมสุดยอดนวัตกรรมเครื่องเสียงรถยนต์มาให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมทดสอบประสิทธิภาพกันที่บูธโซนี่กันอีกด้วย  พร้อมกันนี้ได้ทำการเปิดตัวจอภาพ 4 รุ่นใหม่จากโซนี่ อาทิ เครื่องเล่นมัลติมีเดียในรถยนต์ รุ่น XAV-712BT, XAV-612BT, XAV-602BT และ XAV-65 ที่โดยในรุ่น XAV-712BT, XAV-612BT จะโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี MHL(Mobile High Definition Link) ซึ่งเป็นการถ่ายทอดภาพและเสียงแบบดิจิตอลจากสมาร์ทโฟนสู่จอแสดงผลความคมชัดสูง พร้อมกับการชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยโดยใช้สายเชื่อมต่อ MHL/HDMI เพียงเส้นเดียว ผ่านช่องพอร์ท HDMI แสดงภาพและเสียงจากสมาร์ทโฟนขึ้นสู่หน้าจอเครื่องเล่นอย่างสะดวกและง่ายดาย รวมถึงเทคโนโลยี MirrorLink™ ที่จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆภายในรถยนต์ซึ่งจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้โดยตรง  มาพร้อมหน้าจอแบบ LED ความละเอียด 1.15 ล้านพิกเซล ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสมจริงเทียบเท่าจอทีวีที่บ้าน สามารถใช้งานได้กับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายด้วยการสัมผัสที่หน้าจอของเครื่องเล่นได้โดยตรง  อีกทั้งยังเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์ด้วยระบบเสียง Virtual 4.1 multi-channel  ที่จำลองเสียงรอบทิศทางและสะดวกสบายไปกับการทำงานของ App Remote Version 2.0 ด้วยการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นพร้อมเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับเครื่องเล่น โดยสามารถควบคุมความบันเทิงของเครื่องเสียงภายในรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง และหากมีการส่งข้อความ(SMS) เข้ามายังสมาร์ทโฟน ระบบจะทำการอ่านออกเสียงข้อความที่เข้ามาโดยอัตโนมัติอีกด้วย นับเป็นนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และให้คุณได้เต็มอิ่มกับความบันเทิงที่หลากหลายให้กับทุกการเดินทางของคุณ


        พร้อมกันนี้เครื่องเล่นมัลติมีเดียในรถยนต์รุ่นใหม่ของโซนี่นี้ยังมีการแจ้งเตือนต่างๆในขณะขับรถ เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยในการเดินทาง และสามารถรองรับการเล่นไฟล์วีดีโอ MP4 720P / AVI / Xvid / WMV และเล่นไฟล์วีดีโอที่เก็บอยู่ใน iPhone 5 / iPhone 5S / iPhone 4 / iPhone 4S / iPod ได้  รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับ Navigation แผนที่นำทางได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถอัพเดต Firmware ได้ด้วยตัวเองผ่านทาง USB ได้อีกด้วย  

นอกจากนี้ภายใน งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30Motor Expo 2013 ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์บันเทิงที่หลากหลายจากจากชุดเครื่องเสียงที่โซนี่ได้ติดตั้งในรถยนต์ตั้งแต่ชุดความบันเทิงระดับไฮเอนด์ในรถซูเปอร์คาร์ จนถึงชุดประหยัดในอีโคคาร์ทั้งหมด 7 คัน 7 สไตล์ พิเศษ...พบกับโปรโมชั่นเด็ดๆอีกมากมายที่จัดเตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ อาทิ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับส่วนลด และขอสมนาคุณที่มีมูลค่าสูงถึง 25,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าจากบูธโซนี่ภายในงาน เท่านั้นยังไม่พอด้วยข้อเสนอสุดพิเศษกับการเพิ่มระยะเวลาการรับประกันสินค้าเป็น 2 ปีเต็ม รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจตลอดงาน
สำหรับเครื่องเล่นมัลติมีเดียในรถยนต์ที่จะวางจำหน่ายมี 4 รุ่น ได้แก่ XAV-712BT, XAV-612BT, XAV-602BT และ XAV-65 โดยจะรองรับการงานของ App Remote Version 2.0   โดยจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100



สงวนสิทธิ์เนื้อหาเป็นทรัพย์สินของ อ.อ้น alizt แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น. ขับเคลื่อนโดย Blogger.